สำหรับชาว โปเกม่อนเทรนเนอร์ ที่ติดตามการ์ตูนความทรงจำในวัยเด็ก จะต้องรู้จักเรื่อง Pokémon อย่างแน่นอน ซึ่งออกมเป็นลักษณะมากมายทั้งการ์ตูนและเกม แต่สำหรับ การ Pokémon™ Legends: Arceus ก็เป็นเกมหนึ่งของการ์ตูนเรื่อง Pokémon เราจะมาดูว่ามันมีอะไรทำให้มันหน้าเล่นบ้าง
Pokémon™ Legends: Arceus คือ
โปเกมอนเลเจนด์ อาร์เซอุส เป็นวิดีโอเกมแนวแอ็กชันตามบทบาท พัฒนาโดยบริษัทเกมฟรีก จำหน่ายโดยบริษัท โปเกมอน จำกัดและนินเท็นโด ตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่องนินเท็นโด สวิตช์ เมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565 ตัวเกมเป็นส่วนหนึ่งของชุดวิดีโอเกม โปเกมอน รุ่นที่แปด โดยเป็นภาคก่อนของเกม โปเกมอน ไดมอนด์ และ เพิร์ล ที่วางจำหน่ายใน พ.ศ. 2549
Pokémon™ Legends: Arceus เนื้อเรื่อง
ตัวละครเอกที่ต้องจับพลัดจับผลูเดินทางข้ามเวลาไปยังอดีตเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วยพลังของ Arceus โปเกม่อนเทพแห่งผู้สร้างที่มอบหมายให้เราเข้าไปทำภารกิจ ‘ตามหาโปเกม่อนให้ครบทุกชนิด’ ในดินแดนฮิซุยที่ได้ชื่อว่ามีโปเกม่อนโหดร้ายมากมาย เมื่อรู้ตัวอีกทีเราก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมสำรวจเข้าไปแล้ว และประจวบเหมาะมากเพราะพวกเขาก็ตั้งใจจะสร้าง PokéDex หรือสมุดภาพโปเกม่อนเล่มแรกของประวัติศาสตร์กันพอดิบพอดี นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยเหนือจินตนาการในเกมภาคล่าสุด
Pokémon™ Legends: Arceus กราฟิก
กราฟิกในโลกกว้างได้อย่างน่าตื่นตา แต่ก็ต้องบอกว่ามันยังดูตกยุคอยู่ไม่น้อย ตัวเกมขาดรายละเอียดสภาพแวดล้อมไปเยอะมาก มีหลายฉากที่ดูแบนเรียบจนไม่ชวนมอง อีกทั้งยังมีอาการภาพแตกที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะเล่นแบบโหมดพกพาหรือต่อเข้ากับทีวีก็ตาม
Pokémon™ Legends: Arceu ระบบการเล่น
เกมไม่ได้เป็น Open-World เต็ม 100% ดังนั้นระบบ Gameplay จึงถูกออกแบบมาให้เข้ากับการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซนใหญ่ ๆ ซึ่งหวยก็มาตกอยู่ที่ระบบการ “รับภารกิจ” ในลักษณะเดียวกันกับเกมตระกูล Monster Hunter
ระบบภารกิจของภาคนี้เข้าใจได้ง่ายมาก ผู้เล่นจะต้องมาตั้งหลักที่หมู่บ้านก่อน เพื่อเลือกภารกิจที่ตนต้องการ จากนั้นก็มุ่งออกไปยังพื้นที่เป้าหมายเพื่อทำให้ลุล่วง ซึ่งภารกิจส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้นการต้องไปต่อสู้กับโปเกมอนตัวโหด หรือจับพวกมันตามเงื่อนไข แต่ขณะเดียวกันก็จะมีภารกิจย่อย ๆ จาก NPC คนอื่นที่มาไหว้วานเรื่องเล็กน้อยกับเราในระหว่างทางอยู่ด้วย เช่นเก็บรวบรวมวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ครบตามจำนวน เป็นต้น
เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ผู้เล่นก็สามารถกลับมารายงานกับ Professor เพื่อสรุปผลการสำรวจ ว่าเราจับหรือวิจัยโปเกมอนอะไรใหม่ ๆ มาได้บ้าง และรับแต้ม Research Point กลับมาเป็นรางวัลตอบแทนเพื่ออัปเกรดระดับของเทรนเนอร์ต่อไป
จุดเด่น
– ระบบการเล่นมีความสร้างสรรค์ ชวนให้ติดพันจนอาจจะเล่นเพลินแบบลืมเวลา
– แผนที่ขนาดใหญ่ (ใหญ่มากมาก) วิ่งเล่นกันได้เต็มอิ่ม
– เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ นำเสนออย่างมีมิติ และเชื่อมโยงกันกับภาคก่อนหน้า
– ทุกอย่างแทบเริ่มต้นจาก 0 มือใหม่จึงเล่นได้ไม่มีปัญหา
– แม้ตัวเกมจะอยู่ในยุคโบราณ แต่หน้าตา UI ก็ดูทันสมัย อีกทั้งยังใช้งานง่ายในหลายส่วน
จุดด้อย
– กราฟิกที่ดูตกยุคสำหรับเกมในปี 2022
– ขาดระบบต่อสู้แบบ Multiplayer และทำได้แค่เทรดโปเกมอนระหว่างกันแบบออนไลน์เท่านั้น
– ช่วงเริ่มต้นค่อนข้างยืดยาด ต้องเล่นไปสักพักกว่าเครื่องจะติดและสนุกกันยาว ๆ